หมูกระทะ อาหารคู่เมืองไทย มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

หมูกระทะ อาหารคู่เมืองไทย มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

หมูกระทะ ในปัจจุบันได้กลายเป็นอาหาร คู่เมืองไทยมา หลายสิบปีเลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะกินเป็นประจำ บางคนมีโอกาสกินเพื่อสังสรรค์ กับหมู่เพื่อนเป็นต้น ซึ่งหมูกระทะที่เรารู้จักส่วนใหญ่จะเป็น ร้านที่เสิร์ฟแบบุฟเฟต์ คือ ลูกค้าสามารถตักอาหาร ที่ร้านหมูกระทะได้มีการจัดมาไว้ให้แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ เป็นผัก อาหารสำเร็จ หรือที่ต้องปรุงด้วยตัวเอง อาทิ ส้มตำ แพนเค้ก เป็นต้น แล้วแต่โปรโมชั่น หรือการตลาดสำหรับดึงดูดลูกค้า บางที่จะมีการจำกัดเวลา แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นร้านหมูกระทะแล้ว จะไม่ค่อยจำกัดเวลา และบางร้านก็จะมีขายเป็นเซ็ท สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบทานแบบบุฟเฟต์ก็มีอีกด้วย และสิ่งที่ทำให้ร้านหมูกระทะดัง ๆ แต่ละร้านสามารถดึงดูดลูกค้าได้อยู่เสมอ คือน้ำจิ้ม และคุณภาพอาหารนั่นเอง

แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า หมูกระทะ นั้นแท้จริงแล้ว มีต้นกำเนิดมาจากไหน และเข้ามาเป็นสินค้า ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกัน ถ้าคุณเคยดูละครไทยเรื่องบุฟเพสันนิวาส จะเห็นว่าแม่การะเกดได้สั่งให้ชาวจีนสร้างกะทะสำหรับทำหมูกระทะโดยเฉพาะขึ้น หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง ?

หมูกระทะ มีต้นกำเนิดมาจาก?

ถ้าพูดถุงหมูกระทะ ที่เป็นอาหารโปรดปรานของทุกคนนั้น ก็คงจะทราบกันดีว่าเป็น การปรุงอาหารด้วยการ นำเนื้อสด อาหารแปรรูปไปวางไว้บนกระทะแบบพิเศษที่นูนขึ้นตรงกลางและรอบ ๆ จะเป็นแบบเจาะสำหรับใส่น้ำซุป ซึ่งความจริงแล้วต้นกำเนิดของกระทะสำหรับ ทำหมูกระทะนั้นมี ต้นกำเนิดมาจาก หมวกทหารมองโกลที่ มีลักษณะเป็นเหล็ก โดยหมูกระทะดั้งเดิมนั้นเกิดมาจากทหารมองโกล พักสงครามในสนามรบ แต่หิวและไม่มีเครื่อมือสำหรับปรุงอาหารจึงริเริ่มใช้ของใกล้ตัวมาใช้ ซึ่งหลังจากนั้นจึงมีการออกแบบ กระทะให้ออกมาคล้ายลักษณะของหมวดทหาร ซึ่งมีลักษณะโค้งมนตรงกลางที่จะเห็นได้ในปัจจุบันนนั่นเอง

หมูกระทะ อาหารคู่เมืองไทย มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

สำหรับในประเทศญี่ปุ่นได้มีการพบ หมูกระทะครั้งแรกในปี ค.ศ. 1918 ที่จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น สมัยก่อนนั้นนิยมเลี้ยงแกะเพื่อนำหนักไปใช้ทำเครื่องนุ่งห่มกันอย่างแพร่หลายทำให้ เกิดเนื้อแกะจำนวนมากและล้นตลาด ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นในยุคนั้นได้ส่งเสริมให้มีการรับประทานเนื้อแกะด้วยการนำไปปิ้งย่าง จากนั้นในปี ค.ศ. 1936 มีการเปิดร้านลักษณะคล้ายกับหมูกระทะขึ้นเป็นจำนวนมากใน โตเกียว โดยจะใช้ชื่ออร้านว่า ร้านเจงกิสข่าน เมนูนี้จึงถูกเรียกว่า เนื้อย่างเจงกิสข่าน และในประเทศเกาหลีก็มีการนิยมรับประทานอาหารด้วยการปรุงคล้าย หมูกระทะด้วยเช่นกัน ซึ่งเรียกว่า เนื้อย่างเกาหลี หรือเรียกว่า บูโกลกิ และกัลป์บี้ ซึ่งได้ข้ามน้ำยข้ามทะเลมานิยมในประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จะมีร้านอาหารที่เสิร์ฟแบบปิ้งย่าง จะมีการบอกร้านนั้นมีการเสิร์ฟเมนูแบบ โฮะโรมอนยากิ หรือ อาหารโชซอนนั่นเอง

ในประเทศไทยหมูกระทะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

สำหรับหมูกระทะใน ประเทศไทยนั้น มีการสันนิษฐานว่า ได้รับอิทธิพลมาจาก วัฒนธรรมการทานฮอตพอต จากประเทศจีน ผสมผสานกับวัฒนธรรมการทานปิ้งย่างจากประเทศฌกาหลี การทานหมูกระทะในประเทศไทยนั้นจะนิยมใช้ถ่านในเพื่อให้ความร้อนในการทำหมูกระทะ ซึ่งหมูกระทะถือเป็นรูปแบบอาหารที่ได้รับอิทธิพล ในวัฒนธรรมการกินมากในประเทศไทย ก่อนที่จะแพร่หลาย และขยายไปยังมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโป และนอกจากนี้ยังมีการคาดว่า ร้านหมูกระทะนั้น ได้ถูกเปิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2500 แรกเริ่มนั้นได้มีการขายในภัตตาคาร เรียกว่า เนื้อย่างเชงกีสข่าน ซึ่งในภาคอีสานจะเรียกว่า เนื้อย่างเกาหลี ซึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีร้านต้นตำหรับหมูกระทะ เรียกว่า “หมื่นทิพย์เนื้อย่างเกาหลี” ยุคแรกจะมีการเสิร์ฟเป็นชุด ๆ มากกว่าการเสิร์ฟในรูปแบบบุฟเฟต์ 

แต่ถ้าจะให้บอกว่าร้านไหนเป็นร้านต้นตำรับจริง ๆ ของหมูกระทะ อาจจะต้องยกเครดิตให้ร้านบุฟเฟต์ที่นิยมอย่างมากในอดีตอย่าง “ร้านไดโดม่อน” ซึ่งมีการขายอาหารให้แก้ลูกค้าได้ทำการปิ้งย่างในรูปแบบใหม่ ด้านการทำให้เป็นร้านปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ โดยลูกค้าสามารถเลือก ทานอาหารได้ตามใจจากเมนูหลากหลาที่มีอยู่ในร้านได้ทุกอย่าง ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาเป็นปัจจุบันที่กลายเป็น ร้านบุเฟเฟต์หมูกระทะ ให้กับทุกคนได้เลือกรับประทานกันได้หลากหลายรูปแบบตามความชอบของแต่ละคน

หมูกระทะ อาหารคู่เมืองไทย มีต้นกำเนิดมาจากไหน?

เมื่อทราบที่มาที่ไปของ หมูกระทะไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ทำให้การกินหมูกระทะนั้นได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ก็คือพื้นฐานประเทศไทยเป็นประเทศที่ ชอบความรื่นเริงเป็นทุนเดิม ในความรื่นเริงนั้น นอกจากความสนุกสนานจะเสียงเพลง ก็ต้องมีเครื่องดื่ม และอาหารเป็นส่วนประกอบด้วย เช่นเดียวกันกับประเทศอื่น ๆ ที่มีอาหารประจำชาติของตนเองเมื่อต้องการเฉลิมฉลองอะไรสักอย่าง และในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นวันสิ้นปี วันปีใหม่ หรืออะไรก็ตามทีเกี่ยวข้องกับการเฉลิมฉลองในประเทศไทยนั้น กลายเป็นวันหมูกระทะแห่งชาติ ไปโดยปริยาย อาจจะเพราะว่า สามารถหาซื้อได้ง่าย เพราะร้านหมูกระทะนอกจากจะนิยมเสิร์ฟ แบบบุฟเฟต์แล้ว ได้มีการขายแบบชุด และบริการส่งถึงบ้าน พร้อมกระทะอีกด้วย ทำให้การกินหมูกระทะกลายเป็น เรื่องใกล้ตัวไปเลยก็ว่าได้ ซึ่งวัฒนธรรมการกินหมูกระทะของคนไทยนั้น ได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่น ๆ ตามได้ที่กล่าวไปข้างต้น และยังสามารถหาอ่านได้จากบทความ ของประเทศสิงคโป ที่ได้เขียนถึงความนิยมของหมูกระทะ ในประเทศสิงคโป ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีร้านหมูกระทะแบบไทย ให้บริการเกิดขึ้นมากมายในต่างประเทศ สำหรับประเทศไทยนั้น ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหน ก็สามารถเห็นหมูกระทะได้ ไม่ว่าจะขึ้นเขา ลงเรือ ขึ้นดอยทะเลหมอก ภูเขาที่เขียวขจี หมูบ้านชนเผ่าหลากหลาย ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่า ได้ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่น แต่มื้อเย็นสามารถหาทานหมูกระทะได้ 

เห็นหรือไม่ว่า หมูกระทะแทบจะเป็นส่วนหนึ่ง ของประเทศไทยไปแล้ว เพราะถือเป็นเมนู ที่ได้รับความนิยมอย่างไป ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถจับต้องได้ และมีไลน์อาหารมากมายให้ได้ เลือกทานแบบจุใจ ในราคาที่พอจะทานได้ในวันที่ต้องการเฉลิมฉลองแบบที่ไม่เจ็บกระเป๋าสตางค์อีกด้วย Ufabet

https://shopee.co.th/blog/wp-content/uploads/2020/04/moo.jpg

https://img.wongnai.com/p/984×0/2019/10/31/b9e09b9a9df6456db2360a45f18f682a.jpg

https://reviewchiangmai.com/wp-content/uploads/2020/05/6-2-1024×683.jpg

Credit by : ทางเข้า Ufabet Ufabet Ufabet เว็บหลัก สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์